บทนำ : ใช้‘ฉุกเฉิน’ต่ออีก

บทนำ : ใช้‘ฉุกเฉิน’ต่ออีก

คณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 แถลงภายหลังการประชุมเมื่อวันที่ 21 พ.ค.ว่า สถานการณ์ระบาดดีขึ้น แต่สถานการณ์โลกยังน่าห่วง จึงต้องระมัดระวังการผ่อนคลาย เพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อระลอกที่สอง เพราะจะเสียหายหนักกว่าเดิม ที่ประชุมเห็นพ้องที่จะขยายเวลาการใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินไปอีก 1 เดือน ตลอดเดือนมิถุนายน โดยจะเสนอเข้าที่ประชุมใหญ่ศบค.ในวันที่ 22 พ.ค. และเสนอที่ประชุม ครม.ต่อไป

ทางคณะกรรมการยังเปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าจะพิจารณาการผ่อนคลายระยะที่ 3 จะมีการหารือเรื่องเคอร์ฟิวด้วย การมีเคอร์ฟิว อาจจะกระทบกระเทือนชีวิต และการดำเนินธุรกิจอยู่บ้าง จึงรับพิจารณาผ่อนคลายในช่วงเวลาที่เหมาะสม แต่ว่ายังไม่สามารถบอกได้ว่าจะมีการลดช่วงเวลาเคอร์ฟิวเท่าไหร่ ทั้งนี้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับ ศบค. สำหรับเคอร์ฟิวเป็นมาตรการที่เป็นผลสืบเนื่องจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หากไม่มี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เคอร์ฟิวก็จะประกาศไม่ได้ เคอร์ฟิวทำให้การแพร่ระบาดของโรคดีขึ้น เพราะได้จำกัดการเคลื่อนไหวของคนบางประเภทที่ยังไม่ตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องมีชีวิตอยู่อย่างสมถะมากขึ้น ขณะนี้เราผ่อนคลายเวลาอยู่ที่ 23.00-04.00 น. ก็ต้องดูว่าในเฟสที่ 3 อาจจะกำหนดเวลาให้น้อยลงหรือเท่าเดิม

ข้อควรพิจารณาสำหรับผู้มีอำนาจหน้าที่ ก็คือ ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ผลกระทบต่อประชาชนที่เกิดขึ้นจากข้อจำกัดต่างๆ อันเป็นการใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แม้จะมีการผ่อนคลายให้เปิดธุรกิจ กิจการร้านค้า แต่ในทางปฏิบัติ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติได้ตรวจสอบกิจการต่างๆ ที่เปิดดำเนินการอย่างเข้มงวด จนบางครั้งเกินเลยเป็นปัญหาในการเปิดกิจการ ขณะที่เคอร์ฟิวก็ทำให้ประชาชนที่ได้กลับมาทำงานมีปัญหาในการกลับเคหสถานให้ทันเวลา และในวันที่ 27 พ.ค.นี้ สภาจะพิจารณาพระราชกำหนดกู้เงิน 1.9 ล้านล้าน ก็จะต้องประชุมภายในเวลาก่อนเคอร์ฟิว อาจจะเป็นปัญหาในการพิจารณากฎหมายสำคัญได้ จนถูกวิจารณ์ว่า การดึงเวลาใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีเหตุผลทางการเมืองรวมอยู่ด้วย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image