งานวิจัยฮาร์วาร์ดชี้ ‘โควิด-19’ อาจระบาดในจีนมาตั้งแต่ ส.ค.ปีที่แล้ว

แฟ้มภาพรอยเตอร์

เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างงานวิจัยของโรงเรียนการแพทย์ฮาร์วาร์ดในสหรัฐอเมริการะบุว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศจีน อาจเกิดขึ้นมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว จากที่มีการรายงานอย่างเป็นทางการว่าเริ่มพบการระบาดของไวรัสโควิด-19 ครั้งแรกในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ของจีนในช่วงปลายเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา

โดยงานวิจัยนี้ระบุว่าเป็นการทำการศึกษาจากภาพถ่ายดาวเทียมที่มีความละเอียดสูงของพื้นที่ลานจอดรถของโรงพยาบาลในเมืองอู่ฮั่น และจากข้อมูลของเครื่องมือค้นหา (เสิร์ชเอ็นจิ้น) ที่เป็นการสอบถามถึงอาการของโรคที่เกี่ยวข้อง เช่น อาการไอและท้องเสีย ทำให้พบเห็นปริมาณการสัญจรการใช้พื้นที่ลานจอดรถของโรงพยาบาลในเมืองอู่ฮั่นที่เพิ่มขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคมปี 2019 ซึ่งรวมถึงข้อมูลการค้นหาเกี่ยวกับอาการของโรคที่เพิ่มมากขึ้น ก่อนหน้าที่จะเริ่มมีการรายงานพบการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในเมืองอู่ฮั่นในเดือนธันวาคมปี 2019 ซึ่งนำไปสู่การสรุปข้อสันนิษฐานดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ทีมนักวิจัยชุดนี้ระบุว่า ขณะที่เราไม่สามารถยืนยันได้ว่าการเพิ่มขึ้นของการสัญจรในพื้นที่จอดรถของโรงพยาบาลเมืองอู่ฮั่นและข้อมูลการค้นหาอาการของโรคผ่านเครื่องมือค้นหาในช่วงเวลาดังกล่าว มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือไม่ แต่หลักฐานการศึกษาของเราสนับสนุนงานวิจัยเมื่อเร็วๆ นี้ที่ชี้ว่าการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นก่อนหน้าที่จะมีการระบุต้นตอการแพร่ระบาดว่ามาจากตลาดขายอาหารทะเลหัวหนาน ในเมืองอู่ฮั่น นอกจากนี้ งานวิจัยยังสนับสนุนสมมุติฐานที่ว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในพื้นที่ทางตอนใต้ของจีน และเป็นไปได้ที่เชื้อไวรัสแพร่กระจายอยู่แล้วในช่วงเวลาที่เกิดผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนหรือคลัสเตอร์ในเมืองอู่ฮั่น

ทั้งนี้ จนถึงขณะนี้จีนมีรายงานยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ 83,043 ราย และมีผู้เสียชีวิต 4,634 ราย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image