‘อินทรีทมิฬ’ บุกทลายแก๊งต่างชาติหากินในคราบนักท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ศารุติ แขวงโสภา รอง ผบก.ทท.1 ตำรวจท่องเที่ยวปฏิบัติการออกระดมกวาดล้างอาชญากรรม และบูรณาการกำลังจากหน่วยงานภาครัฐหลายฝ่ายประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 หน่วยอรินทราช 26 หน่วยรบพิเศษสยบไพรี จากกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด, สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกองบัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมกันปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย จำนวน 45 จุด

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวภายหลังปิดล้อมตรวจค้นว่าสามารถทำการจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 10 ราย โดยจับกุมข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 2 ราย ในจำนวนนี้เป็นสัญชาติไนจีเรีย 1 ราย กาน่า 1 ราย จับกุมข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด จำนวน 6 ราย ในจำนวนนี้สัญชาติอินเดีย 2 ราย ไนจีเรีย 2 ราย อูกันดา 2 ราย จับกุมข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และทำงานโดยไม่มีหนังสือแจ้งให้นายทะเบียนทราบ จำนวน 1 ราย เป็นสัญชาติเคนย่า จับกุมข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 2 คือ โคเคน โดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 1 ราย เป็นสัญชาติอูกันดา และทำประวัติและเก็บดีเอ็นเอ จำนวน 32 ราย รวมผลการปฏิบัติ BLACK EAGLE เข้าค้นทั้งสิ้น 404 จุด จับกุมได้ทั้งสิ้น 145 ราย

รองผบช.ทท. กล่าวอีกว่า การตรวจค้นเนื่องจากตามนโยบายของรัฐบาล ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กวดขันจับกุมกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศโดยแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยว เพื่อเข้ามาก่ออาชญากรรมข้ามชาติและอาชญากรรมที่กระทบกับความมั่นคงส่งผลต่อภาพลักษณ์และการท่องเที่ยวของประเทศไทย เช่น กลุ่มเครือข่ายปลอมธนบัตร (Black Money) กลุ่มเครือข่ายหลอกลวงแต่งงาน (Romance Scam) กลุ่มเครือข่ายผลิตและปลอมบัตรเครดิต (Skimming) กลุ่มคนหลอกลวงนำเพชรปลอมมาจำหน่าย กลุ่มชาวต่างชาติที่ตั้งตัวเป็นกลุ่มกระทำผิดอาชญากรรมต่างๆและยาเสพติด รวมถึงกลุ่มชาวต่างชาติพักอาศัยอยู่ในประเทศโดยการอนุญาตสิ้นสุดลง ซึ่งปัจจุบันได้พัฒนาวิธีการกระทำความผิดให้มีความซับซ้อน และหลบเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่รัฐ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image