‘กสทช.’ที่วาดหวัง

ปิดไปแล้วกับการรับสมัครบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีผู้มาสมัคร 78 คน

เป็นการสรรหา “กสทช.” รอบที่ 3 จากครั้งแรกเมื่อปี 2561 มีผู้สมัคร 86 คน กรรมการสรรหาคัดเหลือ 14 คน แล้วส่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เลือกให้เหลือ 7 คน แต่ปรากฏว่า สนช.โหวตคว่ำกระดานทั้งหมด ด้วยเหตุผลว่า บุคคลที่เสนอมานั้นส่วนใหญ่ขาดคุณสมบัติ

มาครั้งที่ 2 มีผู้สมัคร 80 คน กรรมการสรรหาคัดเหลือ 14 คน ท่ามกลางเสียงทักท้วงจากสังคมว่า ทำไมไม่กลั่นกรองคุณสมบัติเบื้องต้นของผู้สมัครก่อน แต่เปิดให้ทั้ง 80 คน มาสัมภาษณ์และแสดงวิสัยทัศน์ คนละ 10 นาที

คำถามที่สำคัญคือ ใช้เกณฑ์อะไรพิจารณา เพราะหลายคนที่ผ่านเข้ารอบน่าจะขาดคุณสมบัติค่อนข้างชัดเจน ทั้งเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน เรื่องถูกร้องเรียนจนถูกให้ออกจากตำแหน่งเดิม อีกทั้งบางคนแทบไม่มีความรู้ ความสามารถเป็นที่ประจักษ์อย่างแท้จริง

Advertisement

กรรมการสรรหาจึงออกมาชี้แจงพัลวันว่า เหตุที่ให้ทั้ง 80 คนแสดงวิสัยทัศน์ เพราะมีข้อมูลบางส่วนจากหน่วยงานต่างๆ ที่ส่งมาให้นั้นไม่ได้อยู่ในใบสมัคร จึงเปิดโอกาสให้ผู้สมัครชี้แจง

แต่สังคมก็ยังไม่เคลียร์กับคำชี้แจงของกรรมการสรรหา โชคยังดีที่เมื่อ 14 รายชื่อไปถึงวุฒิสภา เป็นช่วงคาบเกี่ยวที่กำลังพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กสทช.ฉบับใหม่ และวุฒิสภาก็โหวตผ่านร่างกฎหมายฉบับใหม่ ทำให้ 14 รายชื่อที่กำลังพิจารณาต้องโละไปโดยปริยาย เพราะต้องสรรหาใหม่ตามกฎหมายใหม่

กระทั่งเปิดรับสมัครรอบ 3 ซึ่ง 14 ชื่อที่ผ่านการสรรหาครั้งก่อนก็มาสมัครกันครบ

Advertisement

หลังจากนี้สำนักงานเลขาฯวุฒิสภาจะส่งรายชื่อผู้สมัครไปให้หน่วยงานต่างๆ ตรวจสอบคุณสมบัติ ก่อนส่งให้กรรมการสรรหาพิจารณาก่อนจะเชิญผู้สมัครมาแสดงวิสัยทัศน์

อย่างไรก็ตาม การพิจารณาของกรรมการสรรหาครั้งนี้คงจะกลั่นกรองคุณสมบัติเบื้องต้นของผู้สมัครได้ว่าใครผ่าน ไม่ผ่าน ไม่ต้องให้ผู้สมัครทั้งหมดมาสัมภาษณ์และแสดงวิสัยทัศน์อีก

ทั้งนี้ พ.ร.บ.กสทช.ฉบับใหม่ให้อำนาจกรรมการสรรหาแล้วในมาตรา 15/1 ที่ระบุว่า “ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครเข้ารับการสรรหาหรือผู้ได้รับการคัดเลือก ให้เป็นหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการสรรหาเป็นผู้วินิจฉัย คำวินิจฉัยของคณะกรรมการสรรหาให้เป็นที่สุด”

อีกทั้งยังระบุหลักเกณฑ์การลงคะแนนว่า ผู้ที่จะได้รับการคัดเลือกต้องได้คะแนน 2 ใน 3 ของคณะกรรมการสรรหา

เมื่อกรรมการสรรคัดเลือกผู้สมัครได้แล้ว จะเสนอรายชื่อให้วุฒิสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบ โดยผู้ได้รับเลือกต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา

หวังว่าการสรรหา กสทช.ครั้งนี้จะได้คนที่มีความรู้ ความสามารถในด้านต่างๆ เป็นที่ประจักษ์อย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่มียศใหญ่โต หรือแค่เคยอยู่บนหอคอยงาช้าง แล้วมาเคลมเป็นเครดิตว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ

ที่สำคัญต้องไม่เคยมีข้อครหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน โดยเฉพาะเรื่องเงินชดเชยจากการเรียกคืนคลื่นความถี่ที่ฉาวโฉ่

ที่ผ่านมาช่วงที่ไร้บอร์ด กสทช.ชุดใหม่ทำให้งานหลายด้านต้องสะดุด โดยเฉพาะ 5จี ที่ประมูลคลื่นกันไปแล้ว แต่ยังต้องพัฒนาอีกหลายส่วนที่จะนำ 5จี มาช่วยยกระดับการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม

ต้องรอยลโฉมใหม่ 7 อรหันต์ “กสทช.” จะเป็นดังที่วาดหวังแค่ไหน ที่จะมาช่วยขับเคลื่อนอนาคตของประเทศต่อไป

วุฒิ สรา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image