สสจ.บึงกาฬ ยังห่วงกลุ่ม 608 รับเข็มกระตุ้น หลัง 1 ตุลาฯ ‘โควิด’ ลดเหลือโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง

นพ.ภมร ดรุณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) บึงกาฬ

สสจ.บึงกาฬ แนะหลังยกเลิกโควิดเป็นโรคเฝ้าระวัง ยังห่วงกลุ่ม 608 รีบรับเข็มกระตุ้น

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าหลังจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงนามยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2563 พ.ศ.2565 ยกเลิกโควิด-19 จากโรคติดต่ออันตราย เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป หลังสถานการณ์การระบาดทั่วโลกมีแนวโน้มลดลง รวมถึงจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตก็ลดลงตามลำดับ ขณะที่วัคซีนในประเทศมีเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนนั้น

นพ.ภมร ดรุณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) บึงกาฬ ให้สัมภาษณ์ว่า หลังประกาศมีผลบังคับใช้ 1 ต.ค.นี้ โรคโควิด-19 จากโรคติดต่อร้ายแรง ลดระดับลงกลายเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ต่อไปผู้ติดเชื้อจะเหมือนคนเป็นไข้หวัด ซึ่งมาตรการต่างๆ ที่เคยเข้มงวดก็จะลดระดับลง ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ผลเป็นบวก ต่อไปก็ไม่ต้องกักตัว ใส่หน้ากากอนามัย อยู่ให้ห่างจากคนอื่น สามารถทำงานประกอบกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ เพียงแต่ต้องสวมหน้ากากอนามัยป้องกันตัวเองไว้ ไม่ให้แพร่กระจายสู่คนอื่น ส่วนผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ผู้ที่ใกล้ชิด ก็ยิ่งผ่อนคลายไปใหญ่ นั่นก็หมายความว่าไม่ต้องกักตัวเหมือนเดิมแล้ว ใช้ชีวิตได้ตามปกติ

นพ.ภมรกล่าวว่า เรื่อง การฉีดวัคซีน ยังเปิดให้บริการเหมือนเดิมที่โรงพยาบาลทุกแห่ง และยังเน้นกลุ่มที่มีโรคประจำตัว หรือกลุ่ม 608 เดิม โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง ก็ให้มารับเข็มกระตุ้นเหมือนเดิม นับจากเข็ม 2 หรือเข็ม 3 ห่างกัน 3-4 เดือน ซึ่งปัจจุบันวัคซีนมีเพียงพอสำหรับประชาชน ถือได้ว่าในคลังเหลือเยอะ มีไว้เพียงพอให้บริการ ส่วนบุคคลทั่วไปก็สามารถรับวัคซีนได้เช่นกันที่ รพ.ทุกแห่ง

นพ.ภมร ดรุณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) บึงกาฬ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Advertisement

“แม้โควิด-19 จะกลายเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังแล้ว ขอให้ทุกคนยังต้องเฝ้าระวังตัวเองเหมือนเดิม การพบปะผู้คน ถ้าแออัดมากก็แนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยอยู่ ถ้าคนไม่มากก็ถอดหน้ากากอนามัยได้ ส่วนพฤติกรรมส่วนตัว เช่น การล้างมือ ก็ให้ถือปฏิบัติเหมือนเดิม นอกจากจะป้องกันการติดโรคโควิด-19 แล้ว ยังป้องกันการติดเชื้อโรคอื่นๆ ได้อีกด้วย หากรู้ว่าคนใกล้ชิดติดโควิด-19 ก็ควรอยู่ห่างๆ ไว้ เหมือนป้องกันโรคไข้หวัดทั่วไปที่เคยกระทำมา

“ที่ผ่านมาต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชน ตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 กว่า 2 ปี ที่ผ่านมาพี่น้องชาวบึงกาฬป้องกันตัวเองได้ดีมาก ทำให้โรคไม่กระจาย และไม่ระบาดหนักเหมือนที่อื่น” นพ.ภมรกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image