รวบ 2 ชายหญิงพม่าแก๊งค้ายาข้ามชาติ พร้อมของกลางมูลค่า 16 ล้าน พยายามติดสินบน 3 แสนแต่ไม่สำเร็จ

วันที่ 10 มี.ค.59 เมื่อเวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.สรศักดิ์ เย็นเปรม รอง ผบช.ภ.7 นายบุญญะพัฒน์ จันทรอุไร รอง ผวจ.กาญจนบุรี พล.ต.ต.สุรนิตย์ พรหมบุตร ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ชินภัทร ตันศรีสกุล รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.จรินทร์ วัฒนไพรสาณฑ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ขวัญชัย ธีระกุล ผกก.สภ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสังขละบุรี นำตัวนางตีตีวีน และนายอ่าวทูอ่อง พร้อมด้วยยาบ้า 80,000 เม็ด มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี

พล.ต.ต.สรศักดิ์กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติรายใหญ่ ขนยาเสพติดประเภทยาบ้ามาจากกิ่งอำเภอพญาตองซู ประเทศสหภาพเมียนมา ที่มีแนวเขตชายแดนติดกับบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี โดยผู้ขนยาเสพติดเป็นหญิงชาวเมียนมา อายุระหว่าง 40-45 ปี จึงนำกำลังไปซุ่มโป่งบริเวณเส้นทางเข้าออกตามแนวชายแดน กระทั่งเวลา 10.30 น. พบหญิงสาวชาวเมียนมาลักษณะตรงตามที่สายลับแจ้งมา สะพายและถือกระเป๋าแบบหูหิ้วขนาดใหญ่มาด้วย จำนวน 2 ใบ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้น ผลจากการตรวจค้น พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าใบใหญ่ จำนวน 6 มัด และกระเป๋าใบเล็ก 2 มัด โดยใช้เสื้อผ้าและชุดชั้นในวางทับเอาไว้ นับรวมกันได้จำนวน 80,000 เม็ด จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวหญิงสาวชาวเมียนมาคนดังกล่าวมาสอบสวนเพื่อขยายผลที่ สภ.สังขละบุรี ทราบชื่อต่อมาคือนางตีตีวีน อายุ 42 ปี แต่เนื่องจากพูดภาษาไทยไม่ได้ จึงต้องให้ปากคำผ่านล่าม

จากนั้นได้นำตัวนางตีตีวีนเพื่อวางแผนขยายผลโดยเดินทางไปที่อำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมกับประสานขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส.ที่อยู่ในพื้นที่ และมีการนัดหมายส่งยาบ้ากันที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ ในเวลาประมาณ 11.30 น.ของวันที่ 8 มี.ค. เมื่อถึงเวลานัดหมาย เจ้าหน้าที่พบชายชาวเมียนมาขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีฟ้า เข้ามาภายในปั๊มน้ำมัน เมื่อสอบถามนางตีตีวีน ตอบว่าใช่คนที่จะมารับยาบ้าจริง จึงวางแผนให้นางตีตีวีนนำกระเป๋าบรรจุยาบ้าไปยืนรอข้างรถยนต์ ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังปะปนอยู่กับประชาชน จากนั้นชายคนดังกล่าวจึงเดินมารับกระเป๋าบรรจุยาบ้าจากนางตีตีวีน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมทันที ทราบชื่อคือนายอ่าวทูอ่อง ไม่มีนามสกุล อายุ 39 ปี โดยระหว่างคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ ป.ป.ส.สงขลา ระหว่างทาง นายอ่าวทูอ่องได้เสนอเงินให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเป็นเงินจำนวน 300,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว เจ้าหน้าที่จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบโดยไม่ให้ผู้ต้องหารับรู้ จากนั้นจึงใช้ไหวพริบที่มีอยู่แกล้งยอม โดยจะมีเครือข่ายค้ายาบ้านำเงินเข้าบัญชีธนาคารให้ ไม่นานนักนายอ่าวทูอ่องบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า ลูกน้องได้นำบัตรเอทีเอ็มมาวางไว้ที่ริมถนนกาญจนวนิช จึงเดินทางไปตรวจสอบก็พบว่าเป็นจริง เจ้าหน้าที่จึงพยายามติดต่อไปยังธนาคารเพื่อขออายัดเงินในบัญชี แต่ไม่สามารถติดต่อได้ เนื่องจากธนาคารได้ปิดทำการแล้ว นำตัวผู้ต้องหาไปกดเงินมาได้ 1 แสนบาท เจ้าหน้าที่จึงรอจนกระทั่งธนาคารเปิดทำการในวันที่ 9 มี.ค.จึงประสานขออายัดเงินสดที่เหลืออยู่ในธนาคารเอาไว้เป็นของกลาง พร้อมกับยึดรถจักรยานยนต์ 1 คัน บัตรเอทีเอ็ม 2 ใบ โทรศัพท์มือถืออีก 1 เครื่อง เงินสดที่ผู้ต้องหามีอยู่จำนวน 25,000 บาท รวมเงินสดจำนวน 125,000 บาท ส่วนเงินที่มีอยู่ในธนาคารจำนวน 220,092 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย พร้อมของกลางทั้งหมดมาดำเนินคดีที่ สภ.สังขละบุรี

สำหรับยาบ้าจำนวนดังกล่าวมีมูลค่าสูงถึง 16 ล้านบาท ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองกำลังนำยาบ้าจำนวนดังกล่าวไปส่งให้กลุ่มนายทุนที่ประเทศมาเลเซีย สำหรับต้นทางของยาบ้ามาจากประเทศเมียนมา ซึ่งจังหวัดกาญจนบุรี และประเทศไทยใช้เป็นเพียงเส้นทางสำหรับลำเลียงยาบ้าผ่านเท่านั้น และหากผู้ต้องหาสามารถนำยาบ้าจำนวน 80,000 เม็ด ผ่านไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้ จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าตัว สำหรับนางตีตีวีนยอมรับสารภาพว่า ก่อนถูกจับกุมเคยทำมาแล้ว 1 ครั้ง ได้ค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 500,000 จ๊าด คิดเป็นเงินไทยประมาณ 14,000 บาท ส่วนนายอ่าวทูอ่องได้ค่าจ้างเป็นเงินริงกิต จำนวน 3,000 ริงกิต คิดเป็นเงินไทยประมาณ 25,000 บาท สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ถือว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติโดยแท้จริง และนับว่าเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมเครือข่ายดังกล่าวได้เป็นครั้งแรกของจังหวัดกาญจนบุรี

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image