“บิ๊กตู่”พอใจลงพื้นที่ ภาครัฐ-เอกชน แนวทางพัฒนาตรงกัน หวังเห็นเจตนารมณ์ที่วางไว้สำเร็จ วอน “บิ๊กป้อม” ลงพื้นที่ด้วยอย่ามองเป็นเรื่องการเมือง ระบุไม่จำเป็นต้องให้คำมั่นจะอยู่ครบเทอม “โยน”เป็นกระบวนการสภา
เมื่อเวลา 15.15 น.วันที่ 1 ธ.ค.64 ที่วังนาคินทร์ คำชะโนด จ.อุดรธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่จ.อุดรธานีว่า วันนี้มากับรัฐมนตรีหลายคนหลายกระทรวงด้วยกันมาติดตามความคืบหน้าการพัฒนาของจังหวัดอุดรธานีและจังหวัดอื่นๆที่เกี่ยวข้องที่มาร่วมประชุมด้วย วันนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างความเชื่อมโยงภายในพื้นที่ระหว่างจังหวัดและไปยังประเทศเพื่อนบ้านทั้งทางบก ทางอากาศ ทางเรือ ทางรางรถไฟรางคู่ และรถไฟความเร็วสูง ซึ่งยังมีข้อจำกัดที่ไม่สามารถเชื่อมต่อกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)
ไม่ได้มากนัก วันนี้ได้เตรียมแผนตรงนี้ไว้แล้ว และจำเป็นจะต้องทำที่บรรจุสินค้า และเก็บสินค้าที่จะจัดส่งระหว่างที่สะพานยังสร้างไม่เสร็จ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาสร้างเส้นทางรถไฟใหม่ ที่ห่างจากเส้นเดิมซึ่งเราพัฒนาทางรถไฟรางคู่และรถไฟความเร็วสูงด้วย วันนี้เรามุ่งหวังในอนาคตถึงแม้ว่าเราจะทำช้ากว่าสปป.ลาวก็ไม่เป็นไร เพราะของเราต้องลงทุนเอง ผลประโยชน์ต่างๆ ก็จะตกอยู่ที่เราทั้งหมด ซึ่งตนเป็นห่วงเรื่องเศรษฐกิจข้างทาง ที่ดินที่ใช้ประโยชน์จะต้องเป็นคนไทยเราถึงไม่มีสัมปทานจะต้องลงทุนเอง 2 แสนกว่าล้านบาท
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อยากจะบอกว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของนายกฯ ซึ่งเรามีการพูดคุยกับประเทศจีน เขาก็ยอมรับกับตนว่าเป็นมิตรต่อกัน และบอกว่าไม่เคยทำกับประเทศอื่นแบบนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของสัมปทาน มีแต่ของเราที่ทำแปลกกว่าของเขา ซึ่งยืนยันว่าจะเสร็จแน่นอนในช่วงปี 69-71 โดยแบ่งเป็น 2 ระยะ สิ่งสำคัญที่สุดคือ การเวนคืน การส่งมอบพื้นที่ เทคโนโลยีต่างๆ ก็มีแต่สัญญา ซึ่งต้องทำครั้งละสัญญา เพราะต้องมีเทคนิคในการออกแบบ เมื่อไปเจอพื้นที่จริงก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนการก่อสร้าง ก็ต้องใช้เวลา ยืนยันว่าจะเปิดใช้ได้ รวมถึงการแก้ปัญหาการเชื่อมต่อที่จะทำควบคู่กันไป ทั้งในส่วนของสะพานข้ามใหม่และสะพานรถยนต์ ก็จะมีการจัดเตรียมงบประมาณไว้ในส่วนนี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้รู้สึกพอใจในการประชุมทั้งภาครัฐและเอกชน สิ่งที่ภาคเอกชนเสนอก็ตรงกับแนวทางที่รัฐบาลทำอยู่แล้ว ซึ่งภาคเอกชนได้ขอบคุณรัฐบาลว่า สิ่งที่เขาคิดเกิดขึ้นมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเส้นทาง หรือทางรถไฟ การประกอบธุรกิจต่างๆ ซึ่งตนก็บอกเขาไปว่า สิ่งที่เราต้องเผชิญต่อไป คือการแก้ไขปัญหาความยากจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคการเกษตรซึ่งรายได้น้อยมาก ราคาผันผวน รัฐบาลจึงต้องใช้เงินจำนวนมาก เราสงสารเขา แต่เราจะทำยังไงที่จะเกิดตรงนี้ให้น้อยลง โดยการสนับสนุนต้นทุนการผลิต ก็ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปหารือร่วมกัน เราต้องทำทุกอย่างให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ผลิต ชาวไร่ ชาวนา คนที่ประกอบปลูกพืช 5 ชนิด เราได้มีการประกันราคาทุกชนิด ซึ่งโชคดีราคาพืช 4 ชนิดไม่ตกมากนะ แต่ข้าวมีปัญหาหนักมาก ซึ่งนายกฯจำเป็นต้องไปปรับตัวเลขเพื่อให้ใช้เงินได้โดยไม่ผิดกฎหมาย จะทำยังไงได้ก็เป็นภาระตรงนี้ ใครจะขัดแย้งได้ เพราะเป็นความต้องการของประชาชน เป็นนโยบาย แต่ปีหน้าปีต่อไปต้องคิดใหม่ ซึ่งตรงก็ได้มอบหมายไปแล้ว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการแก้ปัญหาความยากจนรายครัวเรือน กระทรวงมหาดไทย และคณะทำงานของ พล.อ.ประวิตร ในการแก้ไขปัญหาความยากจนกำลังหารือกันอยู่ ซึ่งจะมีชุดเคลื่อนที่ที่ประกอบด้วยข้าราชการ นักศึกษา ผู้รู้ ปราชญ์ ไปสำรวจพื้นที่ว่าจนแค่ไหนอย่างไร ทั้งนี้หากสามารถทำได้ก็จะสามารถจะปรับเปลี่ยนการปลูกพืชได้ รัฐบาลจะส่งเสริมได้ไม่อย่างนั้นก็เปลี่ยนไม่ได้ แนวทางการทำเกษตรก็เหมือนอย่างเดิม วันนี้เราต้องพัฒนาไปสู่นวัตกรรมใหม่ๆ ทำแบบเดิมไม่ได้แล้ว ส่วนที่ จ.อุดรธานีจะนำเสนอการเตรียมความพร้อมของจังหวัดอุดรธานีในการเป็นเจ้าภาพการจัดมหกรรมพืชสวนโลก 2026 ก็ได้บอกให้จังหวัดเตรียมให้พร้อมเนื่องจากเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ ซึ่งเราก็ต้องเตรียมนำเสนอเพื่อให้ได้รับการคัดเลือก ซึ่งจ.อุดรธานี เป็นจังหวัดสำคัญในภาคอีสานที่มีโอกาสมากที่สุด ที่รถไฟเชื่อมโยงไปถึงยุโรปตะวันออก ซึ่งหากเราทำตรงนี้ได้ ไม่ใช่ไปได้แค่ 2 ประเทศ แต่จะไปทั้งโลกจะทำให้ข้าวมีโอกาสขายได้มากขึ้นตลาดก็จะกว้างขึ้น ซึ่งวันนี้ก็มาดูว่าจะมีสถานที่ท่องเที่ยวตรงไหนได้อีก
เมื่อถามว่า มีหลายโครงการที่เป็นเมกะโปรเจคต้องตรวจสอบความถูกต้องอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ก็ว่ากันไปได้ทั้งหมดทุกกระทรวงต้องตอบได้ทั้งหมด และพร้อมที่ชี้แจง ถ้าบกพร่องตรงไหนก็ไปตรวจสอบมา ซึ่งตนได้เตือนและทุกท่านก็ทราบกันดีอยู่แล้ว เพราะ ครม.เห็นชอบร่วมกันอยู่แล้ว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ตนก็มาอธิฐานขอให้ประเทศชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ปลอดภัย เพราะว่าท่านอยู่คู่แผ่นดินไทยมายาวนาน และต้องอยู่ตลอดไปชั่วกัลปาวสาน พิทักษ์ปกป้องคนไทยให้รอดปลอดภัยจากโควิด ขอให้ตนทำงานสำเร็จ ขอให้ประเทศชาติมีการพัฒนาที่เรียกว่าพลิกโฉมประเทศไทย ในการปรับเปลี่ยนทุกอย่างตามมาตรการที่เหมาะสม ตนอยากให้ทุกอย่างที่ตั้งเจตนารมณ์ไว้ตลอดหลายปีที่ผ่านมาสำเร็จ ในระหว่างที่ยังทำหน้าที่อยู่ ก็หวังว่าทุกคนจะช่วยกัน หากไม่มีอะไรที่ค้างคาเยอะแยะ ต้องทำสำเร็จไปแล้ว เพราะมันมีหลายอย่างที่ถูกทิ้งไว้ ตนก็ต้องก็ต้องมารื้อทุกวัน ไหนสิ่งใหม่ก็เกิดขึ้นได้แต่ตนไม่โทษใครทั้งสิ้น
เมื่อถามว่าการลงพื้นที่จังหวัดอุดรทั้งนี้มีความอบอุ่นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็อบอุ่น ไปไหนก็อบอุ่นเพราะตนอยู่ท่ามกลางคนไทยที่รักชาติ
เมื่อถามว่าชาวบ้านบอกให้นายกฯ อยู่ยาวๆ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อยู่ได้แค่ไหนก็อยู่แค่นั้น
เมื่อถามว่า ถือบรรยากาศดีหรือไม่เพราะพล.อ.ประวิตรได้ลงพื้นที่ด้วย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้อนถามว่า “ทำไม เมื่อท่านว่างก็มา นับเป็นนิมิตหมายที่ดี ตนว่างก็มา มาได้ก็มา สุขภาพท่านแข็งแรงมากับตนได้ก็มา ไม่เห็นจะเป็นเรื่องใหญ่โต ผมก็ชวน รมว.มหาดไทยบ้าง พล.อ.ประวิตรบ้าง ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร วันนี้เดินไกลพล.อ.ประวิตรก็มา พอดีมีวันว่างตรงกันท่านก็มา บางเวลาท่านก็ไปงานของท่านเข้าใจหรือไม่ อย่าไปมองว่าเป็นเรื่องการเมืองอย่างเดียวเลย”
เมื่อถามว่า คนอีสานสนับสนุนให้นายกฯอยู่ต่อก็จะมีกำลังใจมากขึ้นใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า “ก็ต้องมีสิ จะไม่มีได้อย่างไร”
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่กล่าวกับชาวบ้านระหว่างการลงพื้นที่ จ.อุดรธานี ในลักษณะ การให้คำมั่นสัญญาว่าจะอยู่ครบเทอม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่จำเป็นต้องให้คำมั่นสัญญาอะไร ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกระบวนการสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเดินทางกลับ พล.อ.ประยุทธ์ เดินทักทายกลุ่มประชาชน ที่มารอส่ง นำโดยนายอานนท์ แสนน่าน ผู้ริเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย ที่นำมวลชนมาชูป้ายต้อนรับ เช่น คนอุดรธานีรักลุงตู่ ให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีก 1 สมัย พร้อมตะโกนให้กำลังใจ ลุงตู่สู้ๆ เรารักลุงตู่ โดยพล.อ..ประยุทธ์ ได้แสดงความพอใจและร่วมถ่ายรูปตลอดเส้นทาง พร้อมกล่าวว่า ตนบันทึกเทปไว้แล้วนะว่าใครพูดอะไรบ้าง และขอให้สู้ไปด้วยกัน รักคนไทยทุกคน ขอให้ทุกคนรักกัน เราคนไทยจะไม่ทิ้งกัน พร้อมกล่าวว่าขอให้หมู่เฮารักกัน และขอบคุณหมอ พยาบาล อสม.ที่ช่วยกันแก้ไขปัญหาโควิด 19
“ทุกคนต้องช่วยกัน ยืนยันว่าไม่มีอะไรหรอก รัฐบาลตั้งใจทุกอย่าง ขอเพียงอย่าขัดแย้งซึ่งกันและกัน นายกฯเองก็ตั้งใจมาก ขอฝากทุกคน ขอให้ทุกคนปลอดภัย และโอกาสหน้าจะมาเยี่ยมเยียนอีกครั้ง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวก่อนขึ้นรถยนต์พร้อมพล.อ.ประวิตร เพื่อขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ต่อไปยังท่าอากาศยานอุดรธานี และเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร