เกษตรกรสมาชิก กฟก. 380,000 กว่าราย ขอบคุณรัฐบาล หลังจากผลักดันพระราชบัญญัติ กฟก. ฉบับ 3 ประกาศในราชกิจกจานุเบกษา มีผลบังคับใช้ 24 กันยายน 2563
24 กันยายน 2563 นายสไกร พิมพ์บึง รองเลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) เปิดเผยว่าพระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2563 มีผลบังคับใช้ในวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ในนามของสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรและเกษตรกรสมาชิก ขอขอบคุณรัฐบาลโดยรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์) ประธานกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน) รองประธานกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ที่ได้ผลักดัน (ร่าง) พระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จนนำไปสู่การประกาศในราชกิจจานุเบกษาซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 24 กันยายน 2563 นับเป็นคุณูปการกับพี่น้องเกษตรกรรายย่อยที่จะได้รับการแก้ไขปัญหาหนี้จำนวน 380,000 ราย
ผลจากการประกาศใช้พระราชบัญญัติดังกล่าวจะทำให้เกษตรกร จำนวน 380,000 ราย ซึ่งเป็นเกษตรกรรายย่อยที่เป็นหนี้ของสถาบันเกษตรกร (สหกรณ์) , ธ.ก.ส. ในกรณีหนี้บุคคลค้ำประกัน มีมูลหนี้ตั้งแต่ 10,000 บาทแต่ไม่เกิน 200,000 บาท จะได้รับการแก้ไขปัญหาหนี้ในคราวเดียวกัน ที่สำคัญการแก้ไขหนี้ตามกฎหมายกองทุนฟื้นฟูฯ ดังกล่าว เกษตรกรเหล่านี้โดยองค์กรที่ตนเองสังกัด ยังต้องทำแผนฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพควบคู่ไปกับหนี้ที่ได้รับแก้ไข เพื่อให้มีรายได้จากการประกอบอาชีพตามแนวทางของกองทุนฟื้นฟูฯเพื่อนำมาชำระหนี้คืนให้กองทุนฟื้นฟูฯ ที่ได้แก้ไขปัญหาหนี้ดังกล่าวให้
เมื่อกฎหมายฉบับนี้ใช้บังคับแล้ว นับว่าเป็นคุณูปการกับเกษตรกรรายย่อยทั้งประเทศที่ได้รับการแก้ไขปัฐหาหนี้และมีกระบวนการฟื้นฟูอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงจะมีคุณูปการกับเกษตรกรรายย่อยอื่น ๆ ที่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาหนี้ได้ สามารถนำหนี้มาขึ้นทะเบียนเป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ จะได้รับการแก้ไขดูแลอย่างทั่วถึง ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหาภาคการเกษตรอย่างยั่งยืนและนำเข้าสู่การพัฒนาอาชีพของเกษตรกร ที่ขาดโอกาส ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ในการตั้งพระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรต่อไป นายสไกร กล่าว.